กติกาการแข่งขัน Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน 2019 (รุ่น Off Road Club Team)

OFF ROAD EVENT Uncategorized

ชื่อรายการ

TOYOTA HILUX REVO 10 เซียนประจัญบาน 2019
(THE MAGNIFICENT TEN 2019)

ผู้ให้การสนับสนุนหลัก

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

ผู้ดำเนินการจัดการแข่งขัน

กรังด์ปรีซ์ มอเตอร์ ปาร์ค ในเครือ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

รับรองการจัดการแข่งขัน

สมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย,

รูปแบบการแข่งขัน และสนามแข่ง

สนามธรรมชาติปล่อยเดี่ยวผสมจำลองธรรมชาติ ณ สนามกรังด์ปรีซ์ มอเตอร์ ปาร์ค อ. บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

รุ่นการแข่งขัน แบ่งออกเป็น 4 รุ่น

  1. รุ่น TOYOTA HILUX REVO 10 เซียนประจัญบาน 2019
  2. รุ่น SUPER OPEN10 เซียนประจัญบาน 2019
  3. รุ่น เที่ยวป่า OPEN 10 เซียนประจัญบาน 2019
  4. รุ่น OFF ROAD CLUB TEAM 10 เซียนประจัญบาน 2019

            รุ่น Off Road Club Team 2019

 
หมายเหตุ: จำนวน SS, รูปแบบการแข่งขัน และเงินรางวัลจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง                                        

  คุณสมบัติของรถแข่ง

1.ต้องเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น หนึ่งทีมมี 3 คัน จำนวน 6 คน ตามรายชื่อที่สมัคร

2.ช่วงล่างเป็นปีกนกหรือคานแข็งก็ได้

            2.1 ปีกนก ต้องเป็นปีกนกมาตรฐานโรงงานผู้ผลิต และต้องเป็นจุดปีกนกยึดเดิม ห้ามปีกนกสร้างเองหรือปีกนกที่โมดิฟายเพื่อการแข่งขัน รวมทั้งปีกนกของเมกะครุยเซอร์ หรือปีกนกที่ไม่ใช่สายพานการผลิตในเมืองไทย (ปีกนกชุดยกจากค่ายต่างๆ สามารถใส่ได้) และห้ามนำรถที่ไม่ใช่ปีกนกมาดัดแปลงใส่ปีกนก

            2.2 คาน ระบบช่วงล่างไม่จำกัด

3.เครื่องยนต์สามารถเปลี่ยนและปรับแต่งได้อิสระ ไม่จำกัดความจุกระบอกสูบ และประเภทเครื่องยนต์ กรณีเปลี่ยนเครื่องยนต์จะต้องแจ้งลงเล่มทะเบียน หรือมีเอกสารใบอินวอยที่ถูกต้องแนบประกอบด้วย และต้องวางเครื่องยนต์ไว้ด้านหน้าเท่านั้น สามารถถอยเครื่องยนต์ได้ แต่ท้ายฝาวาล์วต้องไม่เกินแผงกั้นระหว่างห้องเครื่องกับห้องโดยสาร (ห้ามตัดด้านท้ายฝาครอบวาล์วให้สั้น)

4.ใน 1 ทีมอนุญาตให้มีรถ Suzuki Caribian , Suzuki Vitara 3 ประตู, Mazda Familia ได้เพียง 1 คัน (อย่างหนึ่งอย่างใดได้เพียงหนึ่งคัน) ปรับแต่งเครื่องยนต์ และช่วงล่างได้ตามอิสระ แต่ต้องคงรูปทรงเดิมเอาไว้  ในส่วนของรถ Kia Sporttag ที่มีการดัดแปลงบอดี้ผิดเพี้ยนไปจากของเดิม ( 5 ประตู) อาทิ ดัดแปลงเป็นกระบะ ลงได้เพียง 1 คัน อีก 2 คันต้องเป็นบอดี้เต็ม

5.รถทุกคันต้องมีแชสซีส์ เลขตัวถัง ตรงตามที่ระบุในเล่มทะเบียน สามารถปรับแต่งได้ แต่ปลายสุดของแชสซีส์จะต้องเลยคานหน้า-หลัง ไม่ต่ำกว่า 20 ซม. (วัดที่หน้าแปลนเสื้อเฟืองท้าย)

6.บอดี้รถสามารถตัดแต่งได้โดย

            6.1 ภายนอก ตัดแต่งได้ แต่ต้องคงรูปลักษณ์เดิมบ่งบอกได้ว่าเป็นรถรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ประตูห้ามตัด (เต็มบาน) ห้ามขยายให้กว้างกว่าเดิม ต้องมีกระจกหน้า-หลัง รวมทั้งประตู ห้ามใช้แผ่นพลาสติกใสหรืออะครีลิก กระจกมองข้างซ้าย-ขวา ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟหน้า ต้องมีครบ

            6.2 ภายใน ห้องโดยสารต้องมีแผงหน้าปัดเดิมของผู้ผลิต ระหว่างห้องโดยสารกับห้องเครื่อง รวมถึงซุ้มเกียร์ต้องปิดให้มิดชิด ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 4 จุดขึ้นไป ทั้งคนขับและผู้นำทาง ในรถบางรุ่นที่ไม่มีประตู เพื่อความปลอดภัย นักแข่งจะต้องทำประตูเปิดไปด้านหน้าและสูง 50 ซม.ขึ้นไป ด้านหลังต้องมีโรลบาร์และตะแกรงเหล็กกั้นให้มิดชิด ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 4 จุด ทั้งคนขับและผู้นำทาง

            6.3 ไฟหน้าปรับเปลี่ยนได้ แต่โคมไฟต้องมีขนาดอย่างน้อย 12 ซม. สูง 7 ซม. (วัดที่โคมไฟ) และโคมไฟซ้าย-ขวา ต้องมีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 70 ซม.(วัดจากด้านในถึงด้านใน) และต้องติดตั้งแนวนอนเท่านั้น

            6.4 กระบะท้ายจะต้องแข็งแรง มีพื้นและมีขอบกระบะสูงอย่างน้อย 300 มม. กระบะต้องไม่สั้นและแคบกว่าแชสซีส์ (สามารถใช้โลหะหรือไม้จริง ที่มีความหนา 20 มม.ขึ้นไป) และจะต้องมีไฟท้ายอยู่ที่ท้ายกระบะ

7.รถทุกคันต้องมีกันชนหน้าที่แข็งแรง ยาวอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 100 ซม. ติดตั้งแนวนอนเช่นเดียวกับกันชนหน้าของรถทั่วไป

8.ห้ามยางหน้าเลยกันชนหรือวินช์โดยเด็ดขาด และห้ามใช้ยางการเกษตร ยางที่อนุญาตให้ใช้ในการแข่งขันต้องไม่เกิน 40  นิ้ว

9.สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมสมรรถนะของระบบส่งกำลัง อาทิ ดิฟล็อก แอร์ล็อกเกอร์ และลิมิเต็ดสลิปได้

10.ไม่อนุญาตให้ติดตั้งระบบเบรกมืออิสระ ซ้าย-ขวา หากคันใดติดตั้งมา ต้องถอดออกหรือตัดระบบการทำงานออก

11.ระบบพวงมาลัยต้องเป็นแบบของรถยนต์ที่ใช้ขับบนท้องถนนทั่วไป ห้ามพวงมาลัยไฮโดรลิคที่สร้างมาเพื่อแข่งขัน

12.ต้องติดตั้งขอลากหน้า-หลัง สำหรับการช่วยเหลือ พร้อมติดสติ๊กเกอร์บอกตำแหน่งที่ชัดเจน เห็นได้ง่าย

13.หมวกกันน็อกต้องเต็มใบและต้องมีมาตราฐานอุตสาหกรรม (มอก.)

14.ภาษี พรบ.ขาดต่อได้ไม่เกิน 180 วัน (นับตั้งแต่วันรับสมัคร)

15.นักแข่งที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ออกให้โดยกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น หรือนักแข่งที่มีอายุตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป แต่ไม่ถึง 18 ปี ต้องมีใบรับรองจากบิดา-มารดา ยินยอมให้ทำการแข่งขันได้

  กติกาการแข่งขัน

1. ทีมที่ลงแข่งขันมี 3 คัน 6 คน ต้องมีอุปกรณ์ช่วยเหลือเบื้องต้นในเส้นทาง ดังนี้

  • 1.1 รถแข่ง 3 คัน อนุญาตให้ติดตั้งวินช์ได้ไม่เกิน 6 ตัว ในจำนวน 6 ตัว อนุญาตให้ มีวิ้นช์เพลาสแตนดาร์ดได้ 1 ตัว และห้ามปรับแต่งใดๆ ทั้งสิ้น อาทิ ห้ามขยายโรลเลอร์ และเปลี่ยนอัตราทดเฟือง อนุญาตให้มีวินช์ไฟฟ้า 2 มอเตอร์จะเป็นขนาด 12 โวลด์ หรือ 24 โวลด์ก็ได้ 1 ตัว
  • 1.2 รถทุกคันจะต้องมีเชือกลาก, สะเก็น, สมอบก (ถ้ามี), ถุงมือ
  • 1.3 กระสอบ หรือ ผ้าคลุมวินช์ ต้องใช้คลุมทุกครั้งเมื่อทำการวินช์ แม้จะเป็นวินช์เชือกก็ตาม หากไม่ใช้จะถูกบวกเวลาเพิ่ม 30 วินาที สามารถใช้ผ้าคลุม, กระสอบ มัดติดกับปลายสลิงได้

2 การใช้วินช์ทุกครั้งที่มือจับสลิงไม่ว่าจะเป็น สลิงลวด หรือเชือก ต้องสวมถุงมือหนังเต็มนิ้ว หากไม่สวมบวกเวลาเพิ่ม 30 วินาที ห้ามใช้ถุงมือผ้าโดยเด็ดขาด

3 เส้นทางแข่งขันไม่อนุญาตให้ผู้เข้าแข่งขันขับผ่านพร้อมกันทั้ง 3 คันในเส้นทางเดียวกัน ให้ผ่านได้ทีละคัน หากมีคันใดคันหนึ่งติด คันที่ 2 และคันที่ 3 สามารถขับผ่านอุปสรรคเพื่อแซงไปช่วยเหลือรถที่ติดดังกล่าวได้

4.รถทั้ง 3 คัน เมื่อเข้าสตาร์ทแล้ว คันแรกจะเป็นผู้กดเวลาในการออกสตาร์ท เมื่อผ่านอุปสรรคปัญหาไปแล้วและเข้าสู่จุด FINISH ต้องให้รถคันสุดท้ายเป็นผู้กดหยุดเวลาเท่านั้น ถึงจะมีเวลาในแต่ละ SS

5.ทีมที่เข้าเส้นชัยได้เร็วที่สุดจะเป็นผู้ชนะ มีเวลากำหนด ( Target time) ใครที่ทำเวลาเกินที่กำหนดในแต่ละรอบการแข่งขันถือว่า DNF ส่วนทีมไหนที่ไม่ได้ออกสตาร์ทจะไม่มีคะแนนใน SS นั้น ถือได้ว่าเป็นการ DNS

6.ผู้ที่ชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับถ้วยรางวัลและของที่ระลึก ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 1-9  จะได้รับโล่ห์รางวัลและของที่ระลึก

7.หลังจากปล่อยสตาร์ทไปแล้วจะไม่มีการปรับแต่งสนามใดๆ ทั้งสิ้นจนกว่าจะจบการแข่งขันใน SS นั้นหรือขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายสนาม

– ทีมอันดับที่ 11  เป็นต้นไป คะแนน 60  คะแนน 

– ทีมที่ทำเวลาดีที่สุดในแต่ละ SS อันดับ 1 จะได้รับคะแนนโบนัส 3 แต้ม อันดับ 2 ได้ 2 คะแนน และอันดับ 3 ได้ 1 คะแนน

– ทีมที่ไม่จบการแข่งขันใน SS นั้นๆ ถือว่า DNF (DID NOT FINISH) ได้ 50 คะแนน

– รถที่ไม่สามารถเข้าจุดสตาร์ทภายในเวลาที่กำหนด ( 3 นาที ) จะถือว่า DNS (DID NOT START) ได้ 0 คะแนน

  ข้อบังคับ และการปรับโทษการแข่งขัน

  1. นำรถแข่งเข้าจุดสตาร์ทของแต่ละช่วงช้าเกินกว่า 3 นาที ถือว่าสละสิทธิ์ และไม่มีเวลา รวมทั้งคะแนนสะสมในช่วงการแข่งขันนั้น
  2. การลัดเส้นทางโดยเจตนา หรือไม่ก็ตาม (ตลอดการแข่งขัน) ปรับโทษให้ออกจากการแข่งขัน (โดยล้อออกจากเส้นทางทั้ง 4 ล้อ) ถือว่าเป็นการ DNF ในช่วงทดสอบนั้นๆ (ริบบิ้นยาว) ในกรณีริบบิ้นผูกหัวหลัก รถออกช่องไหน เข้าช่องนั้น หากเข้าผิดช่องทางทั้ง 4 ล้อ ถือว่า DNF
  3. ในกรณีที่รถแข่งไม่สามารถเข้าจุดสตาร์ททั้ง 3 คัน ด้วยกำลังเครื่องยนต์ เพื่อทำการแข่งขันในสถานีนั้นๆ จะถือว่า DNS และไม่มีคะแนนสะสมในสถานีนั้นๆ
  4. ไม่ออกสตาร์ทหลังกรรมการให้สัญญาณภายในเวลา 30 วินาที ปรับโทษให้ออกจากการแข่งขัน และถือว่าเป็นการ DNF ในช่วงสถานีนั้น ๆ
  5. กรณีชนเชือกขาด หรือเสาหลักล้มลงกับพื้นเอียงเกิน 45 องศา จะถูกบวกเวลาเพิ่มจุดละ 30 วินาที ทันทีโดยไม่ต้องลงมาซ่อมแซม
  6. ลากสลิงโดยไม่สวมถุงมือ บวกเวลาเพิ่ม 30 วินาที
  7. การแต่งกายต้องรัดกุม ต้องใส่กางเกงขายาว รองเท้าจะต้องเป็นรองเท้าหุ้มส้นเป็นอย่างน้อย
  8. กติกาอื่นๆ ใด ที่ไม่ได้ระบุในเอกสาร คณะกรรมการเห็นว่าไม่ปลอดภัยจะแจ้งให้ทราบก่อนการแข่งขัน และใช้บังคับต่อไป หรืออยู่ในดุลพินิจของนายสนาม และผู้จัดการแข่งขัน
  9. ไม่มีการแจ้งซ่อมทั้งก่อนการแข่งขันและในระหว่างการแข่งขัน
  10. ห้ามทีมแข่ง และคนทั่วไปเข้าไปในเส้นทางการแข่งขันโดยเด็ดขาด ถ้าฝ่าฝืนจะยุติการแข่งขันทันที และจะแข่งต่อเมื่อไม่มีคนภายนอกในเส้นทางการแข่งขัน (เพื่อความปลอดภัยของผู้ชมและนักแข่ง)
  11. ระหว่างการแข่งขันผู้เข้าร่วมทั้ง 6 คน/3 คัน/ 1 ทีม สามารถลงมาช่วยเหลือในเส้นทางได้
  12. นักแข่งที่มีผู้สนับสนุนเป็นค่ายรถยนต์คู่ค้าทางการตลาดกับ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด อนุญาตให้ติดสติ๊กเกอร์ผู้สนับสนุนได้ขนาดไม่เกิน 12 x 12 นิ้ว และไม่เกิน 2 จุดบนรถแข่งคันนั้น รวมถึงไม่อนุญาตติดธงสัญลักษณ์ค่ายรถผู้สนับสนุนในรุ่นนั้นๆ
  13. ผู้ช่วยผู้ขับขี่ (โคไดรเวอร์) จะต้องมีที่จับที่ชัดเจนและมั่นคง ที่ไม่ทำให้มือหรือแขนออกมานอกตัวรถเด็ดขาด
  14. กติกาทั้งหมดที่ไม่ได้กล่าวมาในที่นี้ อยู่ภายใต้ดุลพินิจของผู้จัดการแข่งขันและนายสนามเท่านั้น และคำตัดสินของกรรมการและนายสนามถือเป็นอันสิ้นสุด

  การปรับโทษให้ออกจากการแข่งขัน

  1. ผู้เข้าทำการแข่งขันหรือทีมแข่งทำการหยุดเวลา หรือกระทำการใดๆ ที่ทำให้ผู้แข่งขันของตนเสียโอกาส (อยู่ในดุลพินิจของนายสนาม) ถือว่าต้องออกจากการแข่งขัน
  2. เข้าไปในเขตเก็บรถ PARK FIRME โดยไม่ได้รับอนุญาต
  3. แสดงมารยาทไม่สุภาพต่อคณะกรรมการ
  4. เจตนากลั่นแกล้งคู่แข่งในระหว่างการแข่งขัน
  5. ห้ามดื่มสุรา, เสพของมึนเมา, ยาเสพติด ในระหว่างการแข่งขัน
  6. ได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกในระหว่างการแข่งขัน (ขึ้นอยู่ในดุลพินิจของนายสนามหรือผู้ควบคุมการแข่งขัน)
  7. ไม่สวมหมวกนิรภัยให้ออกจากการแข่งขัน
  8. โค-ไดรเวอร์ขึ้นไปยืนอยู่บนกระบะหลังรถขณะทำการแข่งขันในสถานการณ์แข่งขันปกติ โดยที่มิได้มีอุปสรรคใดขวางหน้า
  9. ไม่ติดสติ๊กเกอร์บังคับตามตำแหน่งของผู้จัดการแข่งขันระบุ นายสนามมีสิทธิ์พิจารณาถอนสิทธิ์การแข่งขันในรถแข่งคันนั้นๆ
  10. ติดสติ๊กเกอร์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นคู่แข่งทางการค้าของโตโยต้าเกินจากกติกาที่กำหนด

  การประท้วงการแข่งขัน

การประท้วงจะกระทำได้เฉพาะผู้ที่มีชื่อเข้าร่วมการแข่งขันในรถที่ทำการแข่งขันประท้วงเท่านั้น หรือผู้จัดการทีม ผู้อื่นไม่สามารถทำการประท้วงได้ การประท้วงจะต้องทำเป็นจดหมายต่อนายสนาม และสามารถทำได้ในข้อกำหนดดังต่อไปนี้

  1. การประท้วงคุณสมบัติ ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน, รถแข่ง, ส่วนประกอบรถแข่ง และอุปกรณ์ต่อพ่วง ให้ยื่นประท้วงก่อนการแข่งขัน 30 นาที
  2. การประท้วงผลการแข่งขันให้ยื่นประท้วงภายในเวลา 30 นาที นับจากเวลาการประกาศผล
  3. การประท้วงเรื่องเวลา ให้ประท้วงกับกรรมการ ณ จุดนั้นๆ และทำจดหมายแจ้งต่อนายสนามภายในเวลา 15 นาที หรือหลังจากรถแข่งคันนั้นจบการแข่งขันช่วงนั้นๆ
  4. การประท้วงต้องแนบเงินค้ำประกันจำนวน 5,000 บาท พร้อมจดหมายการประท้วง ถ้าคะแนนประท้วงถูกต้องตามคำประท้วง จะคืนเงินค้ำประกันให้ตามจำนวน แต่ถ้าคำประท้วงไม่เป็นผล จะริบเงินทั้งหมด และจะต้องจ่ายค่าเสียหายในการพิสูจน์ เพื่อเป็นการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
  5. ผู้มีสิทธิ์ประท้วงต้องเป็นผู้จัดการทีมหรือนักแข่งเท่านั้น และการประท้วงต้องมีผลต่ออันดับของการแข่งขันเท่านั้น

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Grand Prix Motor Park บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) 4/299 หมู่ 5 ซ.ลาดปลาเค้า 66 ถ.ลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220 โทร. 0-2522-1731-8, หรือ 0-2971-6450-60 ต่อ 364 และ 356 แฟ็กซ์ 0-2522-1730  

Related Posts