นับเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งยวดอีกครั้ง ในโอกาสที่งาน The 40th Bangkok International Motor Show 2019 หรือ “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40” ประสบความสำเร็จตามคาด ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน ค่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า 50 แบรนด์ กวาดยอดจองรวมกันจำนวนมากถึง 49,278 คัน ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะรองประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เปิดเผยว่า “งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 นับเป็นอีกครั้งของการจัดงานที่ประสบความสำเร็จในทุกด้าน ทั้งจำนวนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และผู้ประกอบการธุรกิจยานยนต์ที่เข้าร่วมงานซึ่งมีเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่งผลให้บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก และได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก จากการรวบรวมตัวเลขผู้เข้าชมงานในปีนี้อยู่ที่ 1.6 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ด้านของยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เกิดขึ้นภายในงาน มียอดรวมทั้งสิ้น 49,278 คัน แบ่งออกเป็นรถยนต์ 37,769 คัน ขณะที่รถจักรยานยนต์มียอดจองในปีนี้มี 5,343 คัน และแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) 6,166 คัน
ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจจองรถภายในงานเนื่องมาจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกันการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ และโปรโมชั่นการตลาดที่จูงใจ ประกอบกับเป็นช่วงหลังการเลือกตั้งที่มีการเตรียมจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในด้านเศรษฐกิจและกล้าที่จะใช้จ่ายมากขึ้น”
สำหรับในปีนี้ รายงานสรุปยอดจองจากค่ายรถที่เข้าร่วมงาน ระบุว่า รถยนต์นั่งอเนกประสงค์เป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงาน โดยมียอดจองเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นรถยนต์นั่ง และรถปิกอัพ โดยเฉพาะในกลุ่มปิกอัพดับเบิ้ลแค็บ ที่แต่ละค่ายนำรถรุ่นพิเศษ หรือ รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ออกมาเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ต้องการรถที่ตกแต่งพิเศษจากโรงงาน ขณะที่ตลาดรถหรูยังคงเป็นเซ็กเม้นท์ที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงาน โดยมีตัวเลขยอดจองสูงถึง 5,055 คัน จากการรวบรวมตัวเลขยอดจองภายในงาน โตโยต้า มียอดจองมากที่สุดจำนวน 6,110 คัน, อันดับที่ 2 มาสด้า จำนวน 5,211 คัน อันดับที่ 3 ฮอนด้า จำนวน 4,910 คัน อันดับ 4 มิตซูบิชิ จำนวน 3,019 คัน อันดับ 5 อีซูซุ จำนวน 2,715 คัน
ส่วนในกลุ่มรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า มียอดจองมากที่สุดจำนวน 1,274 คัน, อันดับ 2 ยามาฮ่า จำนวน 723 คัน และอันดับ 3 คาวาซากิ จำนวน 539 คัน ส่วนแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) ค่ายไมน์ โมบิลิตี้ มียอดจองจำนวน 4,500 คัน ตามมาด้วยค่ายฟอมม์ จำนวน 1,666 คัน จากยอดจองภายในงานครั้งนี้พบว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยยังคงมีความแข็งแกร่ง ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ ด้านเทคโนโลยี และทางด้านการตลาด ซึ่งเห็นได้จากภาพรวมของการจัดงานในปีนี้ ที่ทุกค่ายต่างนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริดจ์ รวมถึงการนำเทคโนโลยี AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้ในรถยนต์ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงาน จนนำไปสู่ตัวเลขยอดจองในปีนี้
นายจาตุรนต์ กล่าวเสริม “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมางานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ ยังคงได้รับความเชื่อมั่นเป็นอย่างดีจากบริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ ในการเข้าร่วมงานเพื่อจัดแสดงเทคโนโลยียานยนต์ไปจนถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ พร้อมทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในการสร้างบูธและจัดแสดงโชว์สุดอลังการมาโดยตลอด”
ทางผู้จัดงานต้องขอขอบคุณทุกๆ บริษัทที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ที่มีส่วนช่วยเหลือและสนับสนุนให้งาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์”ในปีนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม นั่นเป็นการยืนยันให้เห็นได้ถึงการเป็นงานแสดงรถยนต์อันดับหนึ่งของเมืองไทยและเป็นหนึ่งในอาเซียน เทียบชั้นกันงานแสดงรถยนต์ระดับโลกได้อย่างแท้จริง