The Making of BMW XM50e

สวัสดีครับ ข้อมูลนี้ได้จากการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ใช่ข้อมูลภายในบริษัทผลิตสินค้า กรณีต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาสอบถามจากผู้แทนจำหน่าย รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในคันแรกของโลก มีขึ้นในปี 1903 ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อวิบากหรือ 4×4 Off Road ก็ได้รับการวิจัยพัฒนาจนได้รับการบรรจุเข้าประจำการในราชการสงครามโลก

สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อวิบากถูกปลดประจำการ พลเรือนจึงนำมาดัดแปลงสภาพเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมป่าไม้ เหมืองแร่ ฟาร์มไร่ปศุสัตว์ กลุ่มนักผจญภัยใช้ชีวิตกลางแจ้ง (Outdoor Life) ทั้งอเมริกันและอินโดนีเซีย นำมาขับลุยป่าเล่นในวันหยุดสุดสัปดาห์ เป็นที่ฮือฮานิยมแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะช่วงทศวรรษ 1970-1990

กลางทศวรรษ 1990 ไลฟ์สไตล์ผู้คนเปลี่ยนจากท่องเที่ยวผจญภัยในป่ากว้าง หันมาสนใจเรื่องสุขภาพร่างกายและคุณภาพชีวิต (Healthcare & Quality of Life) ตลาดรถยนต์ทั่วโลกเปลี่ยนมือจาก 4×4 Off Road Cross Country SUV เป็น All-Wheel Drive และ Crossover SUV

ตัวรถขับใช้ง่ายโดยไม่ต้องใช้ทักษะขับขี่การใช้เกียร์ 4×4 High/Low และ Differential-Lock อะไร
รถยนต์นั่งตรวจการณ์อเนกประสงค์รุ่นใหม่ เน้นประโยชน์ใช้สอย (Utility) อัตราส่วนการขับใช้ในชีวิตประจำวันอยู่บนถนนมากกว่าขับลุยนอกถนนถึง 80/20% หรือมากกว่านี้

ระบบส่งกำลังขับเคลื่อนทุกล้อ (All-Wheel Drive) หรือ AWD พัฒนาจริงจังนับแต่รถสปอร์ตของอังกฤษ คือ Jensen FF ในปี 1966 Subaru AWD ในปี 1975 ยุคของ Audi Quattro ในปี 1980 ปัจจุบันที่เปลี่ยนจากเฟืองเกียร์และของเหลวซิลิโคนมาเป็นอิเล็กทรอนิกส์พลังงานมอเตอร์ไฟฟ้า
Mercedes-Benz GLE (รหัสตัวถัง W163) รถยนต์นั่งตรวจการณ์อเนกประสงค์ ซึ่งอเมริกันเรียกย่อๆ ว่า SUV (Sport Utility Vehicle) ขับเคลื่อนทุกล้อ เปิดตลาดก่อนใครในปี 1997

BMW X5 (รหัสตัวถัง E53) เปิดตลาดในปี 1999, BMW X3 (รหัสตัวถัง E83) ในปี 2003, BMW X6 (รหัสตัวถัง E71) ปี 2008, BMW X1 (รหัสตัวถัง E84) ปี 2009, BMW X4 (รหัสตัวถัง F26) ปี 2014, BMW X2 (รหัสตัวถัง F39) ปี 2017, ล่าสุด BMW XM (รหัสตัวถัง G09) ปี 2022
ตอกย้ำว่า “ขับเคลื่อนทุกล้อ” หรือ All-Wheel Drive (AWD.) คือคำตอบแรกของตลาดรถยนต์นั่งตรวจการณ์อเนกประสงค์ 5 ประตู 5 ที่นั่งทั้งปัจจุบันและอนาคต

BMW XM Series :
XM รหัสตัวถัง G09 เปิดตัวรถต้นแบบในงานแสดงศิลปะ Art’s Basel จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนปี 2021 ที่ Miami Beach รัฐ Florida สหรัฐอเมริกา ผลิตเดือนธันวาคมปี 2022 ที่โรงงาน BMW US Manufacturing Company ที่เมือง Greer รัฐ South Carolina เปิดจำหน่ายปี 2023 จนปัจจุบัน
สไตล์ตัวรถโดย Marcus Syring และ Hussein Al-Attar ออกแบบภายนอกโดย Boson Huang ออกแบบภายในโดย Chris Lee

รถยนต์นั่งตรวจการณ์อเนกประสงค์ (SAV.: Sport Activity Vehicle) 5 ประตู 5 ที่นั่ง ตัวถังขนาดใหญ่ หรือ Full-Size /Crossover SUV ขับเคลื่อนทุกล้อตลอดเวลา โครงสร้างแชสซี BMW CLAR (Cluster Architecture) ตัวรถยาว 5.11 เมตร ช่วงล้อยาว 3.10 เมตร
XM รถยนต์พลังงานผสมชนิดเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ หรือ Plug-In Hybrid Electric Vehicle (PHEV.) แบ่งออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ เบนซิน 6 สูบ TwinPower Turbocharge และเบนซิน 8 สูบวี. Twin-Turbocharge

XM50e เบนซิน 6 สูบแถวเรียง (รหัสเครื่องยนต์ B58) ขนาดความจุ 3,000 ซี.ซี. Twin-Scroll Turbocharge กำลังสูงสุด (รวม) 476 แรงม้า แรงบิด (รวม) 700 นิวตัน-เมตร และ XM เบนซิน 8 สูบวี. (รหัสเครื่องยนต์ S68) ขนาดความจุ 4,400 ซี.ซี. Twin-Turbocharge กำลังสูงสุด (รวม) 653 แรงม้า แรงบิด (รวม) 800 นิวตัน-เมตร
ทั้ง 2 รุ่นใช้เกียร์อัตโนมัติระบบดาวนพเคราะห์ (Planetary Gearset) เดินหน้า 8 สปีด M Steptronic ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ รุ่นเครื่องยนต์ 8 สูบวี. เกียร์อัตโนมัติ มี Drivelogic

Plug-In Hybrid ส่งกำลังขับเคลื่อนแบบ Permanent Magnet Synchronous (ประสานกำลังขับเคลื่อนด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าตลอดเวลา)
มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดที่เสียบไฟชาร์จไฟฟ้าจากตัวอาคารบ้านเรือนได้ แบตเตอรี่กำลังไฟสูงชนิด Lithium-Ion ขนาดกำลังไฟ 29.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) กำลังไฟชาร์จเข้า 7.4 kW (กระแสไฟฟ้าสลับ) โหมดขับขี่ไฟฟ้าอย่างเดียวให้ระยะทางวิ่งไกล 82-88 กิโลเมตร

นำเข้าสำเร็จรูปทั้งคัน (CBU.) โดย BMW Thailand ราคาจำหน่ายในไทย (ปี 2024) BMW XM50e 6,499,000 บาท และ 6,799,000 บาท XM50e (Shadow Line) 6,699,000 บาท และ 6,990,000 บาท XM เบนซิน 8 สูบวี (PHEV.) 14,649,000 บาท และ 14,949,000 บาท รุ่นพิเศษ XM Label Red 17,199,000 บาท และ 17,499,000 บาท

BMW XM50e :
เปิดตัวในเดือนเมษายน ปี 2023 เป็นสินค้าแรกเข้า หรือ Entry-Level Trim ของ XM Series เป็นรถ Full-Size All-Wheel Drive Sport Activity Vehicle (SAV.) พลังงานผสม PHEV. เบนซิน 6 สูบ 3,000 ซี.ซี. พิกัดความแรง 476 แรงม้า(PS) หรือ 350 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด (รวม) 700 นิวตัน-เมตร เร่ง 0-100 กม./ชม.ใน 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. (หมายเหตุ. SAV ก็คือ Crossover All-Wheel Drive SUV)

สไตล์ตัวรถ :
นาย Domogoi Dukec หัวหน้าฝ่ายออกแบบ BMW กล่าวว่า
“สไตล์ตัวรถ BMW XM เป็นเหมือนสารฉบับพิเศษจาก BMW M ที่เน้นความหรูหรานอกเหนือสมรรถนะ โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ สะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้เป็นเจ้าของรถเช่นที่ไม่เคยมีมาก่อนใน BMW Line-up

XM บุคลิกภาพบ่งบอกถึงตำแหน่งและระดับชั้นสินค้า คือรถยนต์นั่ง SAV ชั้นหรูและความเป็น BMW M ที่ทรงสมรรถนะอย่างชัดเจน”
XM ฉลองครบรอบ 50 ปีก่อตั้งบริษัท BMW M GmbH เยอรมนี นับแต่ BMW M1 ก็สร้างผลงานสุดขั้วสมรรถนะตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีระบบส่งกำลังขับเคลื่อนอันเป็นนวัตกรรม และนโยบายผลิตภัณฑ์ (Product Concepts) ที่เป็นหนึ่งก็อยู่ใน XM ครบถ้วน

สไตล์ตัวรถ XM สื่อได้ชัดเจนว่าเป็น BMW M Only เป็น BMW Modern Design Language สะท้อนบอกคุณสมบัติที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Dynamism (พลวัต), Agility (ความคล่องตัว) และ Precision (ความแม่นยำ)

แนวทางในการออกแบบตัวรถ ได้แก่ Unconventional Form – ฟอร์มสดไม่เคยมีมาก่อน, Innovative Character – เส้นสายแนวสันเหลี่ยมตัวรถสะท้อนถึงความทรงพลังสไตล์ BMW M ที่ผู้คนประจักษ์, The Front End: Progressive Design for Maximum Presence – รูปลักษณ์ด้านหน้าที่โฉบเฉี่ยวเกินบรรยาย และ The Side View : An Expression of Unbridled Dynamism – ตัวรถด้านข้างดูทรงพลังชวนประทับใจแต่แรกเห็น

ภายในตัวรถ :
The Rear: Powerful Stature and Newly Interpreted Design – ทรวดทรงท้ายรถดูทรงพลังและล้ำสมัย, The Interior Design: High Performance and Extrovert Luxury – สไตล์ตกแต่งภายใน คือมัณฑนศิลป์แห่งพลังแรงและหรูหราอย่างมีระดับชั้น, Spacious and Luxurious: The M Lounge – ห้องโดยสารโอ่โถงอำนวยพื้นที่ใช้สอยอเนกอนันต์และหรูหราสไตล์ M Lounge

Illuminated and Sculptural: The headliner – รอบห้องโดยสารสีสันไฟส่องสว่างวิจิตรบรรจงแต่ง และ BMW Curved Display with M-Specific User Interface – แผงหน้าปัดจอภาพและตำแหน่งสวิตช์ควบคุมโอบเข้าหาผู้ขับขี่ในรัศมีมือเอื้อม

มิติ-น้ำหนัก-ความจุ.
ความกว้างของตัวรถ 2.005 เมตร กว้างใหญ่กว่าทุกรุ่น ฐานล้อคู่หน้า/หลังจึงห่างกันมากกว่าที่เคย สูงมากถึง 1.755 เมตร
ยาว x กว้าง x สูง = 5.110 x 2.055 x 1.755 เมตร ช่วงล้อ (Wheelbase) ยาว 3.105 เมตร ฐานล้อหน้ากว้าง 1.726 เมตร ฐานล้อหลังกว้าง 1.690 เมตร ใต้ท้องรถสูงจากพื้นราบ 8.67 นิ้วฟุต ถังน้ำมันเชื้อเพลิงจุ 69 ลิตร

น้ำหนักตัวรถเปล่า 2,620 กิโลกรัม (ตามหน่วยวัด DIN) น้ำหนักบรรทุกเต็มพิกัด 600 กิโลกรัม น้ำหนักรวมบรรทุกไม่เกิน 3,220 กิโลกรัม
น้ำหนักตกที่เฟืองท้ายตัวหน้า 1,450 กิโลกรัม น้ำหนักตกที่เฟืองท้ายตัวหลัง 1,825 กิโลกรัม น้ำหนักรถพ่วงท้าย 2,700 กิโลกรัม (รถเทรลเลอร์มีระบบเบรกในตัว) และ 750 กิโลกรัม (รถเทรลเลอร์ไม่มีระบบเบรก) น้ำหนักบรรทุกหลังคาไม่เกิน 140 กิโลกรัม (ติดตั้งราวหลังคาบรรทุกสัมภาระ)
ความจุสัมภาระท้ายรถ 527 ลิตร (ไม่พับเบาะ) และ 1,820 ลิตร (พับพนักพิงเบาะ)

เครื่องยนต์.
M TwinPower Turbo รหัสเครื่อง B58 ที่ได้รับรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยม (Wards’ World’s 10 Best Engine) หลายสมัย ผลิตครั้งแรกในปี 2015 และพัฒนาประสิทธิภาพต่อเนื่องจนปัจจุบัน เบนซิน 6 สูบแถวเรียง 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 วาล์วต่อสูบ หรือ 24 วาล์ว เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC.) ฉุดด้วยโซ่ ขนาดความจุ 2,998 ซี.ซี. สูบ x ช่วงชัก = 94.6 x 82.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดสูบ 11.0 ต่อ 1 เครื่องยนต์หมุนเร็วสุด 7,000 รอบต่อนาที

ฝาสูบ/เสื้อสูบอะลูมินัมอัลลอย หัวเสื้อสูบแบบ Closed-Deck (เปิดทึบรูน้ำระบายความร้อนเพื่อกักอุณหภูมิให้ได้ประสิทธิภาพสูงกว่า) แรงดันเทอร์โบเพิ่มจากก่อน +28% เมื่อเทียบกับ BMW N55 เพิ่มขนาดความจุจาก 2,979 เป็น 2,998 ซี.ซี. ตัวเครื่องฯน้ำหนักเพิ่มขึ้น 8 กิโลกรัม น้ำหนักตัวเครื่องยนต์ 139 กิโลกรัม

เพลาข้อเหวี่ยงหล่อขึ้นรูปด้วยแรงอัดสูง (Forge Steel Crankshaft) เช่นเดียวกับก้านสูบ แท่นเครื่องฯระบบแคปซูลอุ่นกระตุ้นสารเหลวภายในช่วยลดการสึกหรอและมลภาวะไอเสียขณะที่เครื่องยนต์สตาร์ตติดใหม่ๆ

เทอร์โบชาร์จตัวเดียว M TwinScroll Turbocharger (โข่งไอเสียมี 2 ช่อง) ลดปัญหา Turbo Lag ได้ดีกว่า แต่ลดน้ำหนัก ลดพื้นที่ติดตั้ง หล่อเย็นไอดีแบบ Water-to-Air Intercooler ต่อตรงที่ห้องไอหรือ In-Direct Charge Air Cooling

ระบบเปิด/ปิดวาล์วแปรผัน (VALVETRONIC Fully Variable Valve Timing) ทำงานคู่กับระบบเพลาราวลิ้นแปรผันองศา (Double-VANOS) ควบคุมโดยอิเล็กทรอนิกส์ หัวฉีดเชื้อเพลิงเพิ่มแรงดันขึ้น +75% จากเดิมด้วยปั๊มเบนซินแรงดันสูงติดตั้งในปี 2018 และปรับรูหัวฉีดให้พ่นกระจายดีขึ้นในปี 2022 ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ใช้ของ Bosch Di-Motronic เฉพาะตัวเครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า (PS) หรือ 230 กิโลวัตต์ (Kw) ที่ 5,000-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร (Nm) ที่ 1,750-4,700 รอบ/นาที

Plug-In 48-Volt Mild Hybrid:
Plug-In Hybrid นี้ใช้ระบบ 48-volts Mild-Hybrid ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องจากปี 2019 ประโยชน์ที่ได้อย่างชัดๆ ได้แก่

หนึ่ง-เครื่องยนต์สตาร์ตติดเร็วกว่า 12 Volts ประมาณ +20% โดยเฉพาะฟังก์ชัน Engine Auto Start/Stop,
สอง-สตาร์ตง่ายเมื่อเครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงเกิน 60 องศาเซลเซียส,
สาม-ลดแรงสั่นสะท้านขณะเครื่องยนต์สตาร์ตติด,
สี่-ลดมลภาวะไอเสียในช่วงที่เครื่องยนต์สตาร์ตติดใหม่ๆ,
ห้า-กรณีถอนคันเร่งเพื่อลดความเร็วก่อนเบรก หรือ Cruising ตัดการทำงานของเครื่องยนต์ลงสู่ภาวะรอบเดินเบา (Idle Speed) สมองกลสั่งให้แผ่นคลัตช์เกียร์อัตโนมัติเปิดออกหรือลดอาการหน่วงดึง เท่ากับลดภาระการสึกหรอของเครื่องยนต์ และประหยัดเชื้อเพลิงไปโดยปริยาย

BMW eBoost:
การเรียกกำลังเสริมจากมอเตอร์ไฟฟ้า 48-Volt เพื่อช่วยในการเร่งรุด ไม่ว่าจะออกตัวรถจากจุดหยุดนิ่ง เร่งแซง หรือว่าเพิ่มความเร็ว ฟังก์ชันนี้ทำงานอัตโนมัติในทันทีที่ผู้ขับขี่กระทืบคันเร่งสั่งออกรถในเกียร์ต่ำและ/หรือเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ (Full-Throttle/Shift-Down/Kick-Down) ทำให้เครื่องยนต์ไม่ต้องออกแรงมาก ช้ากว่าเทอร์โบจะบูสต์ ลดสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ลดมลภาวะไอเสีย

BMW eDrive Technology
Fully-Hybrid Drive system แรงบิดขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้า/ตัวหลัง และ/หรือตัวเดียว ผ่านระบบขับเคลื่อนทุกล้อ M xDrive
BMW eDrive Technology. Synchronous Electric Motor with Pre-Gearing Stage into 8-sp M Steptronic for Transmission, Generator Function for Recuperating Energy for the High-Voltage Battery

มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า หรือ 145 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร โหมดขับเคลื่อนไฟฟ้าอย่างเดียววิ่งได้ระยะทางไกล 101 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง

แบตเตอรี่กำลังไฟสูง (High Volt Battery) เป็น Lithium-Ion กำลังไฟ 317 โวลต์ ติดตั้งที่พื้นรถ ให้กำลังไฟ 29.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) กำลังไฟชาร์จไฟ 7.4 กิโลวัตต์ ระยะเวลาในการชาร์จไฟ 0-100% 4.5 ชั่วโมง (7.4 kW หรือ 32 แอมป์ 230 โวลต์)
กำลังสูงสุด (รวม) :
กำลังสูงสุด (รวม) 476 แรงม้า (PS) หรือ 350 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด (รวม) 700 นิวตัน-เมตร

เกียร์ส่งกำลัง :
M Steptronic (รหัสเกียร์ GB8X0DZ) เดินหน้า 8 สปีดอัตโนมัติปฏิบัติการแบบ Planetary Gearset ควบคุมการทำงานด้วยอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเกียร์ ZF8 HP80 พัฒนาการรุ่นที่ 3 (ปี 2018) มีการปรับ Software เกียร์ทันสมัยอยู่เนืองๆ ผลิตโดย ZF Friedrichshafen AG เยอรมนี เพิ่มสมรรถนะและเพดานความเร็ว แต่ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่ารุ่น 6 สปีดราว +12% เปลี่ยนเกียร์ต่ำ 200 milliseconds เร็วกว่าคนกะพริบตา รับแรงบิดที่แกนเพลาหน้าเกียร์ได้ถึง 700 นิวตัน-เมตร (Nm) เมื่อประสานการทำงานกับเฟืองท้ายตัวกลาง (Center-Differential) ระบบส่งกำลังขับเคลื่อนทุกล้อ สามารถรับแรงบิดได้มากถึง 1,000 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติรุ่นนี้จึงเหมาะที่ใช้งานกับรถ SUV หรือ SAV ได้อย่างไร้กังวล เกียร์ทั้งชุดรวมทั้งระบบหล่อเย็นน้ำหนักเพียง 87 กิโลกรัม เบากว่าเกียร์ธรรมดา 23.8 กิโลกรัม

ระบบหล่อเย็นเกียร์อัตโนมัติระบบ Direct-Air- Oil Cooler (เกียร์รุ่นที่ไม่ใช่ M หล่อเย็นด้วยน้ำ) พิสัยในการเปลี่ยนเกียร์ต่ำ (Kick-Down Shifting) กระชับเร็วกว่าเกียร์ระบบ Dual-Clutch Transmission แต่ขึ้นอยู่กับโหมดขับขี่ แรงดันน้ำมันเกียร์ในกระเปาะน้ำมัน (Torque-Convertor) ไม่ขึ้นอยู่กับโหมดขับขี่

แผ่นคลัตช์โลหะในระบบเฟืองเกียร์ดาวนพเคราะห์ (Planetary Gearset) ทนทานตลอดอายุใช้งานเกียร์ อัตราทดเกียร์ (1) 5.500 :1 (2) 3.520 :1 (3) 2.200 ;1 (4) 1.720:1 (5) 1.301:1 (6) 1.000:1 (7) 0.833:1 (8) 0.640:1 (เกียร์ถอยหลัง) 4.543:1 อัตราทดเฟืองท้าย 3.636:1

ระบบพวงมาลัย :
Integral Active Steering Electronic Power Steering อัตราทดเฟืองเกียร์พวงมาลัย 16.2 ต่อ 1 วงเลี้ยวแคบสุด 12.5 เมตร

ระบบกันสะเทือน :
Adaptive M Suspension มาตรฐานทุกรุ่น อิสระเต็มตัว 4 ล้อ นโยบายในการออกแบบเพื่อให้ได้ประโยชน์ทั้ง Dynamic Handling, Comfort และ Control เบาแรงในการขับขี่ใช้งานประจำวัน คำนวณแบบให้แต่ละชิ้นส่วนประกอบเคลื่อนตัวและยืดหยุ่นให้ตัวด้วยพลังงานจลน์ (M-Specific Kinematic and Elastokinematics) เน้นฐานล้อกว้าง (Wider Tractions) มุม Camber (มุมแนวตั้งของล้อรถที่ทำกับพื้นถนน) ที่มากกว่า

โช้คอัพควบคุมด้วยไฟฟ้าปรับวาล์วแรงดันน้ำมัน อาศัยแม่เหล็กไฟฟ้า (Electro-Magnetic Valves) ปรับวาล์วตามอัตราการเต้นของล้อหน้าแต่ละข้าง โดยที่โช้คอัพหน้า/หลังทำงานอิสระต่อกัน ลดการเต้นของล้อและการโยนตัวของตัวรถมากกว่ากันสะเทือนมาตรฐาน

กันสะเทือนหน้า/หลังแบบปีกนก 2 ชั้น (Double-Wishbone) ชิ้นส่วนประกอบอะลูมิเนียมอัดแรงเพื่อลดน้ำหนัก คอยล์สปริงคู่หน้าติดตั้งข้อต่อ 2 ตัว (Double-Joint Front Spring Strut /Lightweight Aluminium Construction)

ด้านหลังเหล็กหนวดกุ้งโยงยึด 5 ตัว ชิ้นส่วนประกอบอะลูมิเนียมอัดแรงและเหล็กกล้า (5 Link-Axle Aluminium/Steel Construction)

ระบบเบรก :
ดิสก์เบรกขนาดใหญ่ 39.8 x 2.8 เซนติเมตร (เส้นผ่าศูนย์กลาง x ความหนาของจานเบรก) พร้อมร่องระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ จานหน้าลูกสูบเบรก 6 ตัวแบบติดตั้งตายตัว จานหลังลูกสูบเบรกใหญ่จำนวน 1 ตัวแบบลอยตัว

ระบบเสถียรภาพขับขี่ :
เพื่อประหยัดเนื้อที่เขียน ขออนุญาตทับศัพท์นะครับ
Dynamic Stability Control (DSC.), Anti-Lock Brake System (ABS.), M Dynamic Mode (MDM) พร้อมสวิตช์ปิดการทำงานได้ทั้ง 3 ระบบ, ระบบอิเล็กทรอนิกส์จำกัดการหมุนฟรีล้อหลัง, Cornering Brake Control (CBC), Dynamic Brake Control (DBC.), Performance Brake Control, Dry Braking Function, Drive-Off Assistant, M xDrive All-Wheel-Drive system networked with DSC, Active Roll- Stabilisation with Active Roll Comfort โดยเฉพาะบรรทัดล่างนี้ เรียกว่าเสถียรภาพขับขี่แบบสุดๆ

ระบบเสริมความปลอดภัย :
ถุงลมนิรภัยที่คู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง (สำหรับเบาะคู่หน้า), ถุงลมนิรภัยระดับศีรษะเบาะหน้าและหลัง,
เข็มขัดนิรภัยรัด 3 จุดแบบดึงกลับอัตโนมัติ (3-Point Inertia-Reel Seatbelts) ผนวกกับระบบหยุดการรัดตรึงซึ่งมาพร้อมกับระบบจำกัดแรงดึงกระชากของเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง, เซ็นเซอร์ตรวจจับแรงกระแทกชนและ/หรือพลิกคว่ำ, และ เซ็นเซอร์ตรวจวัด/เตือนแรงดันลมยางแต่ละล้อ

ล้อ-ยาง.
รุ่น XM502 ล้อ M Light Alloy ขนาด 22 นิ้วฟุต ลาย Double Spoke Bicolour ล้อหน้ากระทะกว้าง 10J x 22” ยาง 275/40 R22 ล้อหลังกระทะกว้าง 11J x 22” ยาง 315/35 R22 รุ่น XM50e (Shadow Line) ล้อ M Light Alloy Star Spoke Bicolour ขนาด 23 นิ้วฟุต ล้อหน้ากระทะกว้าง 10J x 23” ยาง 275/35 R23 ล้อหลังกระทะกว้าง 315/30 R23 เกรดยางล้อที่ใช้กับรถ คือ WLTP (Worldwide Harmonised Light Vehicle Test Procedure) สำหรับรถยนต์พลังงานผสม เพื่อให้ได้มาตรฐานประหยัดพลังงานตาม WLTP จึงไม่ควรใช้ยางเกรดที่ใช้สำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์อย่างเดียว

สมรรถนะ-ความประหยัด.
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ใน 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุดในโหมดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 140 กม./ชม. ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. อัตราส่วนกำลังขับเคลื่อนต่อน้ำหนัก 7.5 กิโลกรัมต่อ 1 กิโลวัตต์ (Kg/kW) ประหยัดพลังงานไฟฟ้า (Electric Energy Consumption) 3.97 kWh ต่อ 1 กิโลเมตร (หรือ 25.2 kWh/100 km) ตามมาตรฐาน NEDC (New Europe Driving Cycle) ค่าเฉลี่ยตาม WLTP คือ 32.2-31.5 kWh ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 52.6 กม./ลิตร น้ำมันเต็มถังวิ่งได้ไกล 3,629 กิโลเมตร (จากการคำนวณ 52.6 กม./ลิตร x 69 ลิตร) ปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จากไอเสีย 44 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร

ความเห็น :
BMW M วันนี้เดินหน้าสู่ Premium Luxury Car Segment ชัดเจน แต่คงไว้ซึ่งสมรรถนะที่แรงกล้าไม่แผ่วเบา
XM เป็นรถพลังงานผสมหรือ PHEV ของ BMW M GmbH จึงมีความสำคัญมาก สไตล์ตัวรถและการออกแบบตกแต่งภายในจึงต้องไม่ซ้ำกับที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์โลก ไม่นับเทคโนโลยีพลังงานผสม ระบบส่งกำลังขับเคลื่อน ระบบชิ้นส่วนกลไก เทคโนโลยีไร้สาย-ผ่านดาวเทียม สมรรถนะ และอื่นๆ
เรื่องที่ดึงดูดความสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่

ข้อแรก-บุคลิกภาพตัวรถและสไตล์ตกแต่งภายในที่ “ฉีกแนว” กล้าคิดกล้าทำ สะท้อนถึงรสนิยม อุปนิสัย และการศึกษาของผู้ซื้อได้ชัดเจน,

ข้อที่สอง-พลังรวม 476 แรงม้า (PS) หรือ 350 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด (รวม) 700 นิวตัน-เมตร ที่ได้จากเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ และมอเตอร์ไฟฟ้าพลังงานผสม (PHEV.) ผนวกเกียร์อัตโนมัติ ZF8HP80 เยอรมนีชั้นนำของโลกที่ได้ครบๆ ทั้งประหยัดเชื้อเพลิง, สมรรถนะ, ความเงียบ, ความนิ่งเรียบ (Smooth), ทนทานและบำรุงรักษาต่ำ

ข้อที่สาม-เทคโนโลยีล้ำยุคโดยรวมที่บรรจุเป็นศักยภาพของตัวรถ ไม่ว่าจะระบบกลไก, ระบบเสริมขับขี่ปลอดภัย(ADAS.: Advanced Driving Assistance System), ระบบนำทางผ่านดาวเทียม และ Infotainment, ระบบอำนวยความสะดวกสบายควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์, BMW xDrive ส่งกำลังขับเคลื่อนทุกล้อ, และอื่นๆ

ข้อที่สี่- รับประกันที่น่าจะชัวร์ใจได้ ณ เวลานี้ ได้แก่ Privilege of Purchasing Package 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง กับ 5 ปี 100,000 กิโลเมตร (อย่างไหนถึงก่อนกัน) รายละเอียดการรับประกันสอบถามเพิ่มเติมจากโชว์รูม BMW (ที่ได้รับการแต่งตั้ง) ทั่วประเทศ ซึ่งการรับประกันสำคัญมากต่อความกังวลของผู้ซื้อรถพลังงานผสมและรถไฟฟ้า

ข้อที่ห้า-ประโยชน์ใช้สอยเกินคาด ประหนึ่งว่าได้รถ 4-5 คันในคันเดียวกัน กล่าวคือ
รถนั่งชั้นหรู (Luxury Car), รถนั่งที่กว้างขวางมากพอสำหรับพาครอบครัวท่องเที่ยวทางไกล (Family Car), รถนั่งตรวจการณ์อเนกประสงค์ที่ขับลุยนอกถนนได้ในชั้น Crossover All-Wheel Drive SAV ซึ่งระบบส่งกำลังขับเคลื่อนทุกล้อ BMW xDrive ขับปลอดภัยบนถนนเปียกลื่นด้วย, รถที่บรรทุกสัมภาระได้อรรถประโยชน์ (Versatility) เมื่อพับพนักพิงเบาะตอนหลังราบลง, และรถสปอร์ตทรงพลังสมรรนะสูง

อย่างไรก็ตาม บทความนี้เป็นการ “วิเคราะห์” จากข้อมูลทางเทคนิค เมื่อใดก็ตามที่ได้มีโอกาสทดลองขับก็จะขออนุญาตนำมาบอกเล่ากันอีกครั้ง – ลองพิจารณาดูครับ

โดย. พีระพงษ์ กลั่นกรอง / นักทดสอบรถประสบการณ์โลก